การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ร่วมกับ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดชัยภูมิ และสมาคมส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยวไทย (สธทท.) จัดกิจกรรม “นั่งรถไฟ KIHA 183 พิรุณโปรยปราย เที่ยวสบาย ๆ กลางสายฝน @ ชัยภูมิ” พานักท่องเที่ยว 200 คน จัดเต็ม 4 ตู้ พาเที่ยวอุทยานแห่งชาติป่าหินงาม ชมทุ่งดอกกระเจียว ท้าทายความเสียวที่ผาสุดแผ่นดิน กราบสักการะอนุสาวรีย์เจ้าพ่อพญาแล ชมความมหัศจรรย์ มอหินขาว สโตนเฮนจ์เมืองไทย สัมผัสสายลมและสายหมอก ผาหัวนาค ที่อุทยานแห่งชาติภูแลนคา นอนดูดาว ถวายภัตตาหารเพล กราบขอพรพระธาตุชัยภูมิ เต็มอิ่ม 2 วัน 1 คืน
คุณศุภมาศ ปลื้มสกุล หัวหน้ากองโฆษณาและส่งเสริมการท่องเที่ยว ศูนย์ประชาสัมพันธ์ การรถไฟแห่งประเทศไทย กล่าวว่า “รถไฟ KIHA 183 ได้บริจาคมาจาก บริษัท JR Hokkaido ประเทศญี่ปุ่น โดย รฟท.นำมาซ่อมบำรุง ปรับปรุงใหม่ทั้งหมด ทั้งภายนอกภายใน แล้วมาทำเป็นรถไฟนำท่องเที่ยวขบวนพิเศษ แต่ยังคงกลิ่นอายและบริการเป็นแบบสไตล์ญี่ปุ่นไว้ให้มากที่สุดเพื่อเป็นมนต์เสน่ห์ไลฟ์สไตล์แบบญี่ปุ่นมาไว้ที่ประเทศไทย ตามนโยบายของ นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟฯ ให้การรถไฟฯ บูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานพันธมิตร ภาครัฐ ภาคเอกชน จังหวัดต่าง ๆ เพื่อเข้าไปมีส่วนร่วมสนับสนุนและส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศ โดยจัดโปรแกรมท่องเที่ยวสุดพิเศษกับขบวนรถไฟ KIHA 183 ต่อเนื่องตลอดทั้งปี เทรนด์ท่องเที่ยวโดยขบวนรถไฟ แบบสโลวไลฟ์ กำลังได้รับความนิยมในกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างประเทศ โดยจำกัดทริปละ 200 ที่นั่งเท่านั้น
รถไฟขบวนพิเศษ KIHA 183 ได้เปิดหวูดออกเดินทางจากหัวลำโพงตั้งแต่เวลา 06.00 น. โดยทริปนี้เสิร์ฟอาหารเช้า พร้อมอาหารว่างบนรถไฟ ถึงสถานีวะตะแบก จังหวัดชัยภูมิ เวลา 10.45 น. หลังจากนั้นก็ขึ้นรถบัสต่อ เพื่อไปทานอาหารกลางวันที่ ร้านอาหาร #วังตะแบกกู๊ดวิว ชมวิวกังหันลมท่ามกลางอาหารอร่อยหลากหลายหลังจากอิ่มท้องแล้ว เดินทางไปเที่ยวชมความงามของ ทุ่งดอกกระเจียว เซลฟี ถ่ายรูปหมู่กันที่ป้าย อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม หน้าทางเข้าอุทยานฯ เป็นที่ระลึก จากนั้นขึ้นรถรางไปชมความงามของทุ่งดอกกระเจียว ที่จะบานสะพรั่งช่วงหน้าฝนอ้าแขนต้อนรับนักท่องเที่ยวมาเยือนตั้งแต่เดือนกรกฎาคมถึงเดือนสิงหาคม 2566 โดยทางอุทยานจะมีรถรางบริการวิ่งรับส่งตามจุดท่องเที่ยว 4 จุด หน้าอุทยานฯ ทางเข้าทุ่งดอกกระเจียว, ลานหินงาม, และผาสุดแผ่นดิน
เพื่อความเป็นสิริมงคล ต้องไม่พลาดกราบขอพร อนุสาวรีย์เจ้าพ่อพญาแล บริเวณสี่แยกกลางเมืองชัยภูมิ ก่อนกลับที่พักเพื่อรับประทานอาหารค่ำ แวะชม พิพิธภัณฑ์ผ้าโบราณ เฮือนคำมุ ก่อตั้งโดย “อาจารย์คมกฤช ฤทธิ์ขจร” ลูกหลานเจ้าพ่อพญาแลโดยตรง ภายในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ได้จัดแสดง “ผ้าทอโบราณ” ที่มีอายุมากกว่า 200 ปี และกี่ทอผ้า เครื่องมือทอผ้าโบราณ บ่งบอกความเป็นมาของประวัติศาสตร์ของชาวเมืองพญาแลมายาวนาน
จากนั้นก็พากันไปรับประทานอาหารมื้อค่ำที่ ศูนย์เยาวชนเทศบาลเมืองชัยภูมิ โดยมี คุณศุภมาศ ปลื้มสกุล หัวหน้ากองโฆษณาและส่งเสริมการท่องเที่ยว ศูนย์ประชาสัมพันธ์ การรถไฟแห่งประเทศไทย พร้อมด้วย คุณณัฏฐ์ชุดา นันทนิ ผู้อำนวยการสำนักงานท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดชัยภูมิ, คุณวรวุฒิ วรแสง ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดชัยภูมิ, คุณกันตพงษ์ ธนเนืองโรจน์ นายกสมาคมส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยวไทย (สธทท.) กล่าวต้อนรับนักท่องเที่ยว และชมการแสดงจากนักเรียนเขตเทศบาลเมืองชัยภูมิ 3 โรงเรียน
ที่พิเศษสุด ๆ ทริปนี้ยังไปนอนดู “ฝนดาวตก Perseids” ซึ่งมีอัตราการตกสูงสุดในคืนวันที่ 12 สิงหาคม ถึงรุ่งเช้าวันที่ 13 สิงหาคม ที่วัดศิลาอาสน์ หรือ วัดภูพระ โดยมีพี่ ๆ ชมรมดาราศาสตร์โรงเรียนประทาย จังหวัดนครราชสีมา มาเป็นวิทยากรบรรยายพิเศษ และนำกล้องดูดาวขนาดใหญ่มาให้นักท่องเที่ยวส่องดูดาวบนท้องฟ้ากันทั้งหมด 4 ตัวด้วยกัน พร้อมด้วยการเปิดแอพดูดาว ส่องขึ้นไปหากลุ่มดาวบนท้องฟ้า
เช้าตรู่ของวันใหม่ เดินทางไปยัง อุทยานแห่งชาติภูแลนคา ถ่ายรูปหมู่กับ มอหินขาว กลุ่มหินทรายสีขาว เกิดจากการสะสมของตะกอนทราย และดินเหนียวแข็งตัวกลายเป็นหิน เมื่อเปลือกโลกเคลื่อนไหว บีบอัด จนเกิดการคดโค้ง แตกหัก กัดเซาะ จากสายฝนกับสายลมตั้งเรียงตัวกันคล้ายกับ สโตนเฮนจ์ ของประเทศอังกฤษ ล่าสุดได้รับโหวตให้เป็น Unseen New Chapters แห่งใหม่ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ขณะที่ ผาหัวนาค อยู่สูงจากมอหินขาวขึ้นไป ที่ระดับความสูง 905 เมตร ในหน้าฝนจะมีดอกไม้ป่าบานสะพรั่ง และตอนเช้าสายลมเย็นหอบเมฆหมอกมาฝากนักท่องเที่ยวด้วย สามารถมองเห็นวิวท้องทุ่ง เทือกเขาต่าง ๆ ได้ 180 องศา มีแผ่นหินยื่นตัวออกไปเป็นผาเสียววิวสวยให้นักท่องเที่ยวยืนถ่ายรูปได้หลายจุด
ทริปนี้เดินทางไปยัง วัดอรุณธรรมสถาน สักการะ พระมหาธาตุรัชมงคลเจดีย์สิริชัยภูมิ หรือ พระธาตุชัยภูมิ และถวายสังฆทานแด่พระภิษุสงฆ์ 12 รูป สำหรับวัดพระมหาธาตุรัชมงคลเจดีย์สิริชัยภูมิ หรือ วัดอรุณธรรมสถาน ตั้งอยู่บนยอดเขาช่องลม บ้านภูสองชั้น อำเภอแก้งคร้อ จังหวัดชัยภูมิ เริ่มต้นก่อสร้างเมื่อปี พ.ศ. 2550 โดย พระธรรมสิริชัย เจ้าอาวาส วัดอรุณราชวราราม ได้เดินทางกลับมาสร้างองค์พระธาตุแห่งนี้ขึ้น บนพื้นที่กว่า 60 ไร่ เพื่อเป็นสถานที่เผยแผ่พุทธศาสนาและกลายเป็นอีกแลนด์มาร์คของกลุ่มนักท่องเที่ยว
ปิดทริปด้วยการเดินทางไปขึ้นรถไฟ KIHA 183 ที่สถานีจัตุรัส เดินทางกลับกรุงเทพฯ ด้วยความอิ่มใจ ท่ามกลางสายพิรุณโปรยปราย
ติดตามข่าวสาร จองทริปต่อไปของรถไฟ KIHA และสามารถโหลดรูปในทริปนี้ ได้ทางเพจ ทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย https://web.facebook.com/pr.railway
