เรือนไม้โบราณหลังคาทรงมะนิลา อายุกว่า 130 ปีหลังนี้ สร้างบนที่ดินที่ได้รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 6) เช่นเดียวกับนามสกุลพระราชทาน “วรรณโกวิท”
คุณแต้ว – อาภาวินี อินทะรังสี เจ้าของโดยสายโลหิต ทิ้งงานบริษัทใหญ่แสนเวียนหัว มาใช้ชีวิตเรียบง่ายคล้ายยุคก่อนเก่า เล่าว่า เจ้าของบ้านเดิมของหลังนี้คือหลวงสุนทรนุรักษ์ (กระจ่าง วรรณโกวิท) ซึ่งได้รับมอบที่ดินพระราชทานผืนนี้มาจากบิดา (พระยานรราชจำนง) เพื่อสร้างเป็นเรือนหอ ตกทอดมาถึงคุณแต้วซึ่งเป็นทายาทรุ่นที่ 3 พร้อมกับสูตรอาหารไทยโบราณของคุณยาย (ภรรยาของหลวงสุนทรนุรักษ์)
สมัยเด็ก ๆ บ้านนี้เป็นศูนย์รวมล้อมวงญาติมิตรคณิตศาสตร์ เงินสะพัดวันละหลักสิบหลักร้อยตามประสาขาไพ่ตองหรือไพ่ผ่องสูงวัย ความเก่าแก่ของบ้านมาพร้อมกับความปลอดภัย ที่ไม่ค่อยมีใครกล้าแหยมเข้ามาแม้ไม่ใส่กุญแจ
บ้านและคนรอดพ้นสงครามโลกครั้งที่สองมาอย่างมีบุญ ใต้ถุนยังมีห้องลับ เปิดกระดานขึ้นให้ลงไปซ่อนตัวได้ วันนี้ปิดตายช่องลับหลังกระจกบานใหญ่ เหลือไว้แต่คำบอกเล่า
คุณแต้วสืบทอดสูตรอาหารเช่นข้าวแช่ข้าวผัดน้ำพริกและของว่างของหวาน แบ่งปันกับเพื่อน ๆ ก่อนจะตัดสินใจปรับเปลี่ยนเรือนไม้หลังนี้เป็นร้านอาหาร
“ข้าวแช่บ้านวรรณโกวิท” เป็นสูตรเก่าแก่ของที่บ้าน เริ่มตั้งแต่การคัดสรรวัตถุดิบอย่างประณีต ไม่ว่าจะเป็นการใช้ข้าวซ้อมมือแทนข้าวหอมมะลิ เพื่อให้เมล็ดข้าวยังคงเป็นเม็ดไม่ป่นนิ่ม จากนั้นนำมาแช่ในน้ำลอยดอกไม้อบควันเทียน ส่วนเครื่องเคียงที่นี่จะใช้ของจากร้านประจำ เช่น ปลาหวาน จะใช้เนื้อปลากระเบนยี่สนแห้งจากปากน้ำปราณบุรี ไชโป๊วหวานจากร้านที่ราชบุรี นำมาผัดไข่ โดยมีสูตรการผัดแบบใส่น้ำมันน้อย เพื่อให้หอมกลิ่นคั่วจากกระทะ พริกหยวกยัดไส้หมูสับหรุ่มไข่ สูตรเฉพาะของบ้านวรรณโกวิท และลูกกะปิทอด ที่ใช้เวลากวนนานกว่า 3 ชั่วโมง
ยังมีอาหารโบราณอีกหมายเมนู เช่น ปั้นสิบไส้ปลา ขนมจีนซาวน้ำที่มีเครื่องเคียงเป็นสับปะรดศรีราชาและกุ้งแห้งป่นคุณภาพดี ราดด้วยน้ำกะทิและลูกชิ้นปลากรายเนื้อหนึบ ปิดท้ายด้วยของหวานคลายร้อน อย่างทับทิมกรอบเย็นชื่นใจ
ด้วยความพิถีพิถันในการทำอาหารและจำนวนโต๊ะที่มีจำกัด บ้านวรรณโกวิทจึงเปิดรับรองลูกค้าที่จองมาล่วงหน้าเท่านั้น โทรจองได้ที่ 081 922 6611 หรือเข้าเพจ ข้าวแช่ “บ้านวรรณโกวิท”
ข้อมูล : https://www.bot.or.th/Thai/BOTMagazine/Pages/256302EatGuide.aspx
ขอบคุณอาจารย์นัท จุลภัสสร นำชม และอาจารย์ฐานวดี สถิตยุทธการ เพื่อนร่วมรุ่นคุณแต้ว นัดหมายให้ชิมอาหาร signature และชมบ้านเก่ากลางพระนคร
