หนีร้อนไปเที่ยวทะเล ทริปนี้ มีปลายทางอยู่กลางอ่าวไทย ไปไกลสุดแดนตะวันออก นอกชายฝั่งทะเลตราด หาดสะอาด อากาศสะอ้าน อาหารอร่อย พาตัวเองไปปล่อยเกาะกันเถอะ ขอแนะนำ “เกาะกูด” เกาะที่ฟีลกู๊ดสุด ๆ เป็นทางเลือกแห่งความสุขในคิมหันตฤดูอันร้อนแรงนี้
ถ้าตั้งต้นจากกรุงเทพมหานคร ขับรถมาจะใช้เวลาร่วม 6 ชั่วโมง แต่เดี๋ยวนี้มีวิธีใหม่ บินค่ะบิน เดินทางด้วยสายการบินบางกอก แอร์เวย์ส จากสนามบินฯสุวรรณภูมิ มีเที่ยวบินถึงวันละ 3 เที่ยวให้เลือก ใช้เวลาเพียง 1 ชั่วโมงก็ถึงสนามบินตราด ประหยัดเวลาเดินทาง มีเวลาเที่ยวเหลือเฟือเลย
เมื่อมาถึง จ.ตราด เราก็นั่งรถตู้ต่อมายังท่าเรือแหลมศอก ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง จากท่าเรือนี้ ลงเรือเร็วหรือ Speed Boat บึ่งไปอีก 45 นาที ก็ถึง เกาะกูด อันเป็นที่หมายปลายทาง
สปีดโบ๊ท พาเรามาถึงหาดหน้าที่พักพอดี ได้ลุยน้ำทะเลใสแจ๋วระดับหน้าแข้ง ให้เท้าสัมผัสทรายนุ่ม พร้อมกับจิบเวลคัมดริ๊งค์ ที่ Cham’s House ยกมาเสิร์ฟต้อนรับ เรียกว่าลืมความวุ่นวายในเมืองไปสนิทตั้งแต่วินาทีนี้
จามส์เฮาส์ เป็นรีสอร์ทสไตล์ทรอปิคอล สร้างอย่างกลมกลืนกับบรรยากาศเกาะค่ะ ชื่อที่เก๋สะดุดหูทำให้รู้ว่าต้องมีที่มา คุณเจ-เจริญ หอมอิ่น ผู้จัดการใจดีที่อยู่กับจามส์เฮาส์มาตั้งแต่ปักเสาต้นแรก เล่าให้เราฟังว่า คำว่า “จาม” มาจากชื่อกลุ่มชาติพันธุ์ที่อาศัยอยู่ทางตอนใต้ของเวียดนาม เป็นบรรพบุรุษของคุณบี-ชนิตร์นันท์ เกตุเลขาผู้เป็นเจ้าของรีสอร์ท ตัวอาคารและการออกแบบภูมิสถาปัตย์จึงสะท้อนเอกลักษณ์ของชาวจาม ขณะเดียวกันก็มีกลิ่นอายความรักความผูกพันภายในครอบครัว ที่ไม่ว่าจะมองความงามมุมใด..ก็มีที่มา
อย่างเช่น วิลล่าทรง 8 เหลี่ยมที่ได้แรงบันดาลใจมาจากรังไหม เพราะคุณแม่ของคุณบีเคยทำผ้าไหมส่งให้กับจิมป์ ทอมสันเป็นเจ้าแรก มีห้องอาหารชื่อ Bombyx ที่หมายถึงไหม ตัวหลังคาดีไซน์ให้เหมือนงอบ งานหัตถกรรมของชาวตราด บริเวณที่พักตกแต่งด้วยใบไม้เรียวยาวคล้ายต้นข้าว เพราะคุณพ่อเคยทำนา
เราเห็นนักท่องเที่ยวต่างชาติมากกว่าคนไทย ส่วนใหญ่เป็นชาวยุโรป มีเอเชียบ้าง ส่วนคนไทยมีเพียงเรา
ที่นี่จึงเงียบ แต่ไม่เหงา แต่ถ้าจะเข้าพักแบบเรา แนะนำว่าต้องจอง จึงจะได้ราคาพิเศษ มีรถและเรือไปรับมาถึงหน้าหาด ไม่ต้องนั่งเรือโดยสารไปขึ้นฝั่งที่ท่าเรืออื่น แล้วนั่งสองแถวมาอีกต่อให้เสียเวลาพักผ่อน
ห้องพักของจามส์เฮาส์มีให้เลือกหลายแบบ มีวิลล่าคือบ้านเป็นหลัง ทั้งที่ติดริมหาด และที่ลดหลั่นต่างระดับไปบนเนิน เพราะพื้นที่เกาะกูด 80% เป็นป่าเขา จากที่พักทุกหลังมองเห็นวิวทะเล และมีสระส่วนตัวหน้าบ้านบางหลัง
และยังมีห้อง Deluxe ที่อยู่บนตัวอาคาร แน่นอนว่า มองเห็นวิวทะเลกว้างรอบทิศ แถมมีสระว่ายน้ำรูปรีเหมือนรังไหม และเมล็ดข้าว ที่หน้าห้องอาหาร จะโดดเล่นตูม ๆ หรือนอนนั่งชาร์จพลังเงียบ ๆ ก็ทำได้
เราเข้าบ้านพักแบบ Tropical Villa ลักษณะเป็นวิลล่าส่วนตัวท่ามกลางกลุ่มต้นไม้ มีที่นั่งรับลมหน้าห้อง มองเห็นทะเลมุมสูงจากหน้าบ้าน ฟังเสียงคลื่นทั้งวันทั้งคืน และมีกระรอกบินโฉบไปมาทักทาย นอกจากอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบ ยังเติมความโรแมนติกให้ชีวิตด้วยอ่างอาบน้ำวงรีรูปรังไหม ในห้องอาบน้ำที่เปิดหลังคาโล่งถึงฟ้า ..ให้อาบน้ำใต้แสงจันทร์
หาดคลองหินบริเวณหน้าจามส์เฮาส์นั้นยาวราว ๆ 1.5 กม. โอบโค้งเป็นอ่าวแสนสงบ ทรายละเอียดยิบ ทะเลสีฟ้าใสสะท้อนแดดระยับ เป็นที่หมายตาของเรา ให้ลงเล่นน้ำ และเพลินกับกิจกรรมหน้าหาดได้ตั้งแต่เช้าจรดค่ำ ที่พลาดไม่ได้คือดำน้ำตื้นดูปะการัง และพายเรือคายัคที่ทำด้วยไฟเบอร์กลาสใสแจ๋วทั้งลำ ลอยนิ่ง ๆ ดูปลาว่ายอยู่ข้างใต้และรอบ ๆ ฟินสุด ๆ ทุกอย่างเป็นบริการของที่พัก อยากลงไปเล่นเมื่อไรก็ตามสะดวก เช้าก็ได้ สายก็ดี เย็น ๆ ก็สวย เพราะช่วงกลางวัน เราอาจออกไปเที่ยวสำรวจรอบ ๆ เกาะ
เกาะกูดใหญ่เป็นอันดับสองในหมู่เกาะทะเลตราด ( รองจากเกาะช้าง ) มี่ไฟฟ้าลอดใต้ทะเลมาจากแผ่นดินใหญ่ จ.ตราด มีประปาที่ออกตัวว่าน้ำไม่แรง แต่จริง ๆ แล้วแรงดี มีการกำจัดขยะที่ชาวบ้านบอกว่าเพียงพอ มีถนนเส้นเล็ก ๆ ผ่ากลางและมีซอยแยกเป็นก้างปลา พาเราไปได้ทั่วเกาะ นอกจากจะเล่นน้ำหน้าหาดแล้ว การเที่ยวรอบเกาะจึงทำได้ไม่ยาก จะเช่ามอเตอร์ไซค์ขี่รอบเกาะ หรือบอกทางโรงแรมให้เรียกรถสองแถวมาพาเที่ยวก็ได้ สบาย ๆ แม้จะมีค่าใช้จ่ายบ้าง แต่ก็คุ้ม
น้ำตกคลองเจ้า เป็นแลนด์มาร์คหนึ่งของเกาะ ที่ใครมาเกาะกูดก็ต้องมาแวะเช็คอิน สองแถวจากที่พักใช้เวลา 15 นาที มีลานจอดรถ มีห้องน้ำสะอาด เดินเข้าไปอีกประมาณ 500 เมตร จะถึงตัวน้ำตก ที่โอบล้อมด้วยต้นไม้สูงและโขดหิน ถ้าเป็นหน้าน้ำสายน้ำตกจะแผ่กว้างไหลแรง แต่ในฤดูร้อนเช่นตอนนี้ น้ำจะน้อยหน่อย ถึงอย่างนั้นก็มีนักท่องเที่ยวแนวผจญภัยเล็ก ๆ โหนเชือกโดดน้ำกันตูม ๆ
ที่ได้ชื่อว่าน้ำตกคลองเจ้า ก็เพราะในปี พ.ศ.2454 พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 เคยเสด็จประพาส มีหลักฐานเป็นรอยจารึกพระปรมาภิไธย วปร อยู่บนหินผาใหญ่ และพวงมาลัยที่คนบนเกาะนำไปแขวนสักการะไว้ หากเราศึกษาประวัติศาสตร์ จะพบว่าพระบาทสมเด็จเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 เคยเสด็จฯหมู่เกาะทะเลตราดนับ 10 ครั้ง ทั้งเกาะช้าง เกาะกระดาด และเกาะกูด เป็นที่ภาคภูมิใจของชาวเกาะทะเลตราด และหลายบ้านก็มีพระบรมฉายาลักษณ์เก่าเก็บ ที่ทรงฉายไว้บนเกาะต่าง ๆ ในครั้งนั้น
แต่หากย้อนไปถึงสมัยรัชกาลที่ 1 ที่เกาะกูด บริเวณน้ำตกแห่งนี้ คือแหล่งพักพิงขององเชียงสือ แห่งแคว้นอันนัม ( ในเวียดนาม ) ที่ลี้ภัยเข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภาร ก่อนจะรวมพลกลับไปขับไล่กบฎในบ้านเมืองของตนได้ในภายหลัง
จากเรื่องนี้ เมื่อรัชกาลที่ 6 เสด็จประพาสเกาะกูด มาถึงน้ำตกใหญ่ ก็ได้พระราชทานนามน้ำตกนี้ว่า “น้ำตกอนัมก๊ก” เพื่อเป็นที่ระลึกแก่องเชียงสือ แต่ชาวบ้านก็ยังนิยมเรียกชื่อ น้ำตกคลองเจ้า อยู่ดี เพราะฟังง่าย สั้น และทำให้รำลึกถึงอย่างภูมิใจต่อการเสด็จประพาสของพระมหากษัตริย์ไทย ที่ทรงห่วงใยถึงพสกนิกร แม้อยู่ไกลสุดชายแดน
ออกจากน้ำตกคลองเจ้า เราไปพายเรือคายัคต่อในคลองเจ้า ลำคลองสายสั้น ๆ ซึ่งมีต้นน้ำมาจากน้ำตกคลองเจ้านั่นเอง มีเรือคายัคหลายลำจอดรอนักท่องเที่ยวให้มาเลือกเช่าพายล่องไปตามลำคลอง สองฝั่งเป็นเรือนริมน้ำของชาวบ้าน มีร้านอาหาร และที่พักให้เลือกอีกบรรยากาศหนึ่ง ฝรั่งต่างชาติชอบนัก
การมาพายเรือคายัคที่คลองเจ้า เหมาะกับเวลาเย็นแดดอ่อน แต่ใช่ว่าแดดแรงจะเป็นอุปสรรคเรา เพราะการเป็นนักท่องเที่ยวที่ดี คือการมีอิสระที่จะเลือกทำอะไรตอนไหนได้ตามใจ ร้อนนักก็ (เชียร์ให้หนุ่ม ๆ ) ถอดเสื้อเป็นอาหารตา เราว่าการพายคายัคคลองเจ้า ดีตรงที่เราจะพายไปแค่ไหนก็ได้ ไม่ต้องมีจุดหมาย เมื่อยเมื่อไรร้อนเมื่อไรก็พายกลับ
พลาดไม่ได้คือการไปเยี่ยมชมหมู่บ้านอ่าวใหญ่ เป็นหมู่บ้านชาวประมงที่สำคัญ เพราะใคร ๆ ก็มาเลือกซื้ออาหารทะเลสด ๆ ที่นี่ ทั้งที่เรือประมงออกทะเลไปจับมา และในกระชังเลี้ยงปลาที่ชาวบ้านเลี้ยงไว้ เราแวะดูร้านอาหารทะเลที่มีสารพัดสัตว์น้ำให้เลือกแล้วก็เดินเล่นต่อไปตลอดทางเดินเล็ก ๆ รอบหมู่บ้าน
อาหารทะเลที่นี่ จะชี้เลือกแล้วสั่งปรุงให้กินที่ร้านเดี๋ยวนั้นก็ได้ แต่ถ้าใครขยันอยากจะซื้อกลับไปทำกินเองในที่พักก็ได้เหมือนกัน
ลัดเลาะเลี้ยวตามทางเดินที่ปักเสาในทะเล เจอเด็กน้อยนั่งตกปลา นึกว่าแอ็คท่าเหมือนเด็กเล่นขายของ ที่ไหนได้ พี่ประถมกับน้องอนุบาลเกี่ยวปลาขึ้นมาได้ครึ่งค่อนกระติก “ให้แม่ทำอะไรกินก็ได้” พ่อหนุ่มน้อยบอก
ปิดท้ายยามเย็น กลับมาชมพระอาทิตย์ลับฟ้า ในปาร์ตี้ซีฟู้ดอาหารสด ๆ ริมหาด อิ่มแปร้
ปกติ Cham’s House ซื้อกุ้งกั้งหอยหมึกปูปลาจากหมู่บ้านอ่าวใหญ่ มาปรุงเป็นอาหารที่รีสอร์ททุกวัน ทั้งผักหลายชนิดก็ปลูกเองปลอดสารเคมี จึงทั้งสด ทั้งอร่อย ในบรรยากาศดีสุด ๆ
ให้เรามาอยู่แบบนี้อีกสักเดือน ก็คงไม่คิดอยากกลับเมืองหลวงแสนวุ่นวาย
เกาะกูดมีหาดและอ่าวสวย ๆ มากมายรอบเกาะ เช่นอ่าวสับปะรด อ่าวสลัด อ่าวยายเกิด อ่าวกล้วย อ่าวจาก ที่พักบนเกาะกูดก็มีหลายสิบแห่ง ราคาต่อคืนตั้งแต่หลักร้อยเป็นต้นไป เสน่ห์ของเกาะคือความบริสุทธิ์ของธรรมชาติ ความสะอาด ความสงบ คุณเจแห่งจามส์เฮาส์ และชาวบ้านหลายคนที่เราได้พบ พูดตรงกันว่า เวลาสิบปีที่ผ่านมา เกาะกูดเปลี่ยนแปลงไม่มาก เมื่อใช้มาตรวัดความเจริญแบบคนเมือง ที่นี่ไม่ต้อนรับความเจริญแบบอึกทึก “ความเปลี่ยนแปลงที่ชัดหน่อย คือเดินทางมาได้สะดวกขึ้น ” คนเกาะกูดบอก
สำหรับนักท่องเที่ยวที่อ่านมาถึงตรงนี้แล้วอยากเที่ยวเกาะกูด เราไม่แนะนำให้วอล์คอิน เพราะบอกตรง ๆ ว่า จะแพง และอาจไม่มีที่พักที่ตรงใจ ทางที่ดีเข้าไปหาที่พักในอินเตอร์เน็ต เลือกแบบที่ชอบ จองล่วงหน้า อย่าลืมดูรายละเอียดโปรโมชั่น เพื่อรักษาเงินในกระเป๋า ใช้ให้คุ้มค่า แล้วจะไม่เสียดายทั้งเวลาและเงินของเรา
ใครที่อยากพักผ่อน หนีความเครียด พักสมองจากงาน มาอยู่กับธรรมชาติ จองที่พัก แล้วแพ็คกระเป๋าตามมาได้เลย สำหรับเรา บนเกาะในรีสอร์ทมีไวไฟ แต่ถ้ามาเดินริมหาดห่างบ้านพักจะไม่ค่อยมีสัญญานโทรศัพท์กวนใจ .. ดีตรงนี้
กระซิบว่า… เกาะกูดมีไฟฟ้า มีเอทีเอ็ม แต่ไม่มีร้านสะดวกซื้อ ไม่มีแสงสีอึกทึกยามราตรี จึงเหมาะกับคนรักความสงบ ซึ่งไม่ว่าเราจะเลือกพักที่ไหน ก็สามารถเล่นน้ำได้ทุกหาด เพราะชาวเกาะกูดไม่หวงหาด ประกาศทั่วกันว่าทุกหาดเป็นหาดสาธารณะ ขอแค่อย่าเอาขยะมาทิ้งเรี่ยราด เกาะกูดยินดีต้อนรับตลอดปี
เกาะกูด feel good จริง ๆ เจ๊เขียว confirm